ดูหนังไอรอนแมน Iron Man” ออกฉายในปี 2008 เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยจอน แฟฟโร นำแสดงโดยโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทเป็นโทนี่ สตาร์ก นักอุตสาหกรรมมหาเศรษฐีและนักประดิษฐ์อัจฉริยะที่แปลงร่างเป็นไอรอนแมนซูเปอร์ฮีโร่ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากตัวละครใน Marvel Comics ที่สร้างโดยสแตน ลี แลร์รี ลีเบอร์ ดอน เฮค และแจ็ก เคอร์บี้  เรื่องย่อ:โทนี่ สตาร์กเป็นซีอีโอของสตาร์ก อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องอาวุธล้ำสมัย ขณะเดินทางไปทำธุรกิจที่อัฟกานิสถานเพื่อสาธิตขีปนาวุธรุ่นล่าสุด โทนี่ถูกกลุ่มก่อการร้ายที่เรียกว่าเท็นริงจับตัวไป พวกเขาบังคับให้เขาสร้างอาวุธทำลายล้างสูง แต่กลับสร้างชุดเกราะไฮเทคเพื่อหลบหนีแทน

หลังจากกลับถึงบ้าน โทนี่ตัดสินใจยุติการผลิตอาวุธที่สตาร์ก อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ทำให้โอบาไดอาห์ สเตน (รับบทโดยเจฟฟ์ บริดเจส) หุ้นส่วนทางธุรกิจของเขาโกรธ โทนี่ขัดเกลาชุดเกราะของเขาจนสร้างไอรอนแมนสีแดงและทองอันโด่งดัง ชุดสูท และสาบานว่าจะใช้เทคโนโลยีของเขาเพื่อปกป้องโลก อย่างไรก็ตาม สเตนมีแผนของตัวเองและกลายเป็นไอรอนมองเกอร์ผู้ชั่วร้าย นำไปสู่การต่อสู้ที่ถึงจุดไคลแม็กซ์ระหว่างทั้งสอง

มรดก: “ไอรอนแมน” ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลและมักถูกยกให้เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาล โครงเรื่องของตัวละครของโทนี่ สตาร์กยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม และอิทธิพลของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถเห็นได้ในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากที่ตามมา ความสำเร็จของ “ไอรอนแมน” แสดงให้เห็นว่าการดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูนสามารถได้รับคำชมเชยจากนักวิจารณ์และทำกำไรได้ ซึ่งช่วยปูทางสู่ยุคใหม่ในฮอลลีวูด

ดูหนังไอรอนแมน  Iron Man 2 (2010) ไอรอนแมน 2

Iron Man 2 ออกฉายในปี 2010 เป็นภาคที่สองของภาพยนตร์ชุด Iron Man และเป็นภาคที่สามในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) กำกับโดยจอน แฟฟโร ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทโทนี่ สตาร์ก/ไอรอนแมน กวินเน็ธ พัลโทรว์ รับบทเปปเปอร์ พ็อตส์ ดอน ชีเดิล รับบทเจมส์ “โรดี้” โรดส์ และแนะนำสการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน รับบทนาตาชา โรมานอฟ/แบล็กวิโดว์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องของโทนี่ สตาร์กต่อจากการเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเขาคือไอรอนแมน โดยสำรวจผลที่ตามมาของชื่อเสียงที่เพิ่งได้มาและความท้าทายที่มากับมัน

เรื่องย่อ: ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องต่อจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง “ไอรอนแมน” ภาคแรกไม่นาน โดยโทนี่ สตาร์กเผชิญกับแรงกดดันจากรัฐบาลให้ส่งมอบเทคโนโลยีไอรอนแมนของเขา ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นอาวุธทำลายล้างสูง โทนี่ปฏิเสธ โดยยืนกรานว่าชุดไอรอนแมนเป็นทรัพย์สินของเขา และเขาเท่านั้นที่สามารถจัดการพลังของมันได้อย่างมีความรับผิดชอบ ในขณะเดียวกัน โทนี่กำลังจัดการอย่างลับๆ

ด้วยปัญหาส่วนตัวที่ร้ายแรง: แกนแพลเลเดียมในเครื่องปฏิกรณ์อาร์คที่ให้พลังงานกับชุดเกราะของเขา—และทำให้เขามีชีวิตอยู่—กำลังวางยาพิษเขาอย่างช้าๆ โทนี่ต้องการทางออกอย่างสิ้นหวัง จึงเริ่มประมาทมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเชื่อว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลง เขาแต่งตั้งเปปเปอร์ พ็อตส์เป็นซีอีโอของสตาร์ก อินดัสทรี ทำให้เขายิ่งห่างเหินจากความรับผิดชอบของตนมากขึ้น

ศัตรูหลัก อีวาน วังโก (รับบทโดยมิกกี้ รัวร์ก) กลายเป็นนักฟิสิกส์ชาวรัสเซียผู้อาฆาตแค้น ดูหนังไอรอนแมน  และมีความแค้นต่อตระกูลสตาร์ก วังโกใช้เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์อาร์คเวอร์ชันของตัวเองเพื่อสร้างชุดเกราะติดอาวุธและกลายเป็นวายร้าย วิปแลช หลังจากการเผชิญหน้าอันน่าตื่นตาตื่นใจที่กรังด์ปรีซ์โมนาโก วังโกถูกจับกุม แต่ไม่นานก็ได้ร่วมมือกับจัสติน แฮมเมอร์ (รับบทโดยแซม ร็อคเวลล์) ผู้ผลิตอาวุธคู่แข่งที่ต้องการแซงหน้าโทนี่ สตาร์ก

ขณะที่แวนโกและแฮมเมอร์วางแผนทำลายโทนี่ โรดี้รู้สึกหงุดหงิดกับพฤติกรรมของโทนี่ จึงหยิบชุดไอรอนแมนชุดหนึ่งไปส่งให้กองทัพ ซึ่งชุดดังกล่าวจะถูกนำไปติดอาวุธและแปลงเป็นวอร์แมชชีน ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยการต่อสู้ที่งานสตาร์คเอ็กซ์โป ซึ่งตอนนี้โทนี่และโรดี้สวมชุดวอร์แมชชีนและร่วมมือกันปราบแวนโกและกองทัพโดรนของเขา

เมื่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในทันทีหมดไป โทนี่ก็ได้รับข้อความจากฮาวเวิร์ด สตาร์ก ผู้เป็นพ่อของเขาหลังจากที่เขาเสียชีวิต ซึ่งทำให้เขาค้นพบธาตุใหม่ที่สามารถแทนที่แพลเลเดียมในเครื่องปฏิกรณ์อาร์กของเขาได้ และรักษาพิษที่เขาได้รับ ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยการที่โทนี่และโรดี้ยืนยันมิตรภาพของพวกเขา และโทนี่ก็เริ่มบทใหม่ในชีวิตของเขาพร้อมกับจุดมุ่งหมายที่สดใหม่

ผลงาน:“Iron Man 2” มีบทบาทสำคัญในการขยายจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล โดยแนะนำตัวละครและแนวคิดสำคัญๆ ที่จะกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในภาพยนตร์ภาคต่อๆ มา แม้ว่าจะได้รับการตอบรับที่หลากหลาย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เสริมสร้างพัฒนาการของตัวละครของโทนี่ สตาร์ก และปูพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงในที่สุดของเขาจากเศรษฐีพันล้านที่เห็นแก่ตัวเป็นฮีโร่ที่เสียสละภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเน้นย้ำถึงศักยภาพและความท้าทายในการสร้างจักรวาลภาพยนตร์ร่วมกัน เนื่องจาก Marvel Studios ยังคงสานเรื่องราวของตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของตนเองต่อไป ส่งผลให้ “The Avengers” ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมีมาก่อนในปี 2012 และต่อๆ มา

Iron Man 1 (2008) ไอรอนแมน

“Iron Man” ออกฉายในปี 2008 เป็นภาพยนตร์ที่จุดประกายจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) และปลุกฟื้นแนวซูเปอร์ฮีโร่ขึ้นมาอีกครั้ง กำกับโดยจอน แฟฟโร ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทโทนี่ สตาร์ก/ไอรอนแมน กวินเน็ธ พัลโทรว์ รับบทเปปเปอร์ พ็อตส์ เจฟฟ์ บริดเจส รับบทโอบาไดห์ สเตน และเทอร์เรนซ์ ฮาวเวิร์ด รับบทเจมส์ “โรดี้” โรดส์ “Iron Man” ดัดแปลงมาจากตัวละครใน Marvel Comics ที่สร้างโดยสแตน ลี แลร์รี ลีเบอร์ ดอน เฮค และแจ็ก เคอร์บี้

เรื่องย่อ:
โทนี่ สตาร์กเป็นมหาเศรษฐีนักอุตสาหกรรม นักประดิษฐ์อัจฉริยะ และซีอีโอของบริษัท Stark Industries ซึ่งเป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องอาวุธล้ำสมัย ในระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจที่อัฟกานิสถานเพื่อสาธิตขีปนาวุธรุ่นใหม่ โทนี่ถูกซุ่มโจมตีและจับกุมโดยกลุ่มก่อการร้ายที่เรียกว่า Ten Rings โทนี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิดที่ฝังอยู่ใกล้หัวใจของเขา และถูกบังคับให้สร้างอาวุธทำลายล้างสำหรับกลุ่มก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม แทนที่จะปฏิบัติตาม เขากลับสร้างชุดเกราะพลังงานหยาบๆ เพื่อหลบหนีจากการถูกจองจำ ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนนักโทษ ดร. โฮ ยินเซน ผู้ฝังแม่เหล็กไฟฟ้าในอกของโทนี่เพื่อป้องกันไม่ให้สะเก็ดระเบิดเข้าถึงหัวใจของเขา โทนี่จึงหลบหนีออกมาได้สำเร็จ

เมื่อกลับมาที่สหรัฐอเมริกา โทนี่ประกาศว่าสตาร์ค อินดัสทรีส์จะไม่ผลิตอาวุธอีกต่อไป  ดูหนังไอรอนแมน  ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สร้างความตกตะลึงให้กับโลกและทำให้โอบาไดอาห์ สเตน หุ้นส่วนทางธุรกิจของเขาโกรธ เมื่อโทนี่ปรับปรุงชุดเกราะของเขาให้เป็นชุดไอรอนแมนสีแดงและทองอันโด่งดัง เขาก็เริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ของเขาในการต่อสู้กับผู้ที่ใช้อาวุธของเขาในทางที่ผิด โดยแสวงหาการไถ่บาปจากอดีตของเขา

ในขณะที่โทนี่ยังคงปรับปรุงชุดของเขาต่อไป เขาก็ค้นพบแผนการสมคบคิดภายในบริษัทของเขาเอง โอบาไดอาห์ สเตน ซึ่งแอบขายอาวุธของสตาร์คให้กับผู้ก่อการร้าย พยายามยึดครองบริษัทและกำจัดโทนี่ สเตนจึงสร้างชุดเกราะที่ใหญ่และทรงพลังยิ่งขึ้นของเขาเอง จนกลายเป็นไอรอน มอนเจอร์ผู้ร้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยการต่อสู้ระหว่างโทนี่และสเตน ซึ่งแม้ว่าโทนี่จะสู้ไม่ได้ แต่เขาก็เอาชนะสเตนได้สำเร็จด้วยการใช้ความเฉลียวฉลาดและพลังทั้งหมดของเครื่องปฏิกรณ์อาร์คของเขา

ในฉากสุดท้ายอันโด่งดังของภาพยนตร์ โทนี่เปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะว่าเป็นไอรอนแมน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สร้างบรรยากาศให้กับส่วนที่เหลือของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลธีม:”ไอรอนแมน” สำรวจธีมของการไถ่บาป ตัวตน และจริยธรรมของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของโทนี่ สตาร์กจากผู้ผลิตอาวุธที่เห็นแก่ตัวเป็นฮีโร่ที่ทุ่มเทเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในภาพยนตร์ เรื่องราวยังกล่าวถึงผลที่ตามมาของสงครามและความรับผิดชอบที่มากับพลังอีกด้วย

ธีมสำคัญอีกประการหนึ่งคือแนวคิดของการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคล การเดินทางของโทนี่ไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นไอรอนแมนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความผิดพลาดในอดีตของเขาและเลือกที่จะใช้สติปัญญาและทรัพยากรของเขาเพื่อประโยชน์มากกว่าผลกำไรผลกระทบ:”ไอรอนแมน” ประสบความสำเร็จทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้ ทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 585 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางจากการแสดงที่มีเสน่ห์ของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกำหนดลักษณะของโทนี่ สตาร์ก ความสำเร็จของ “ไอรอนแมน” พิสูจน์ให้เห็นว่าตัวละครจากหนังสือการ์ตูนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักสามารถเป็นแกนหลักของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ได้ และปูทางไปสู่การขยายตัวของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล

ฉากหลังเครดิตของภาพยนตร์ซึ่งนิค ฟิวรี (รับบทโดยซามูเอล แอล. แจ็คสัน) เข้าหาโทนี่ สตาร์กเกี่ยวกับ “โครงการอเวนเจอร์ส” กลายเป็นช่วงเวลาบุกเบิกในวงการภาพยนตร์ โดยสร้างจักรวาลที่เชื่อมโยงกันซึ่งต่อมากลายเป็นจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลตำนาน:”ไอรอนแมน” มักได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการซูเปอร์ฮีโร่ โดยสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการเล่าเรื่องที่เน้นที่ตัวละครภายในบริบทของจักรวาลภาพยนตร์ที่ใหญ่กว่า การผสมผสานระหว่างแอ็กชั่น อารมณ์ขัน และความรู้สึกในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมประทับใจ และความสำเร็จนี้ทำให้แนวทางของ Marvel Studios ในการสร้างจักรวาลที่ร่วมกันแข็งแกร่งขึ้น g2g999

Iron Man 3 (2013) ไอรอนแมน 3

“Iron Man 3” ออกฉายในปี 2013 เป็นภาคที่ 3 ของภาพยนตร์ชุด Iron Man และเป็นภาคที่ 7 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) กำกับโดยเชน แบล็ก นำแสดงโดยโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทโทนี่ สตาร์ก/ไอรอนแมน กวินเน็ธ พัลโทรว์ รับบทเปปเปอร์ พ็อตส์ และเบน คิงส์ลีย์ รับบทแมนดาริน ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องของโทนี่ สตาร์กต่อ โดยเน้นที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจาก “The Avengers” (2012) และเจาะลึกถึงการต่อสู้ของสตาร์กกับตัวตนของเขาในฐานะไอรอนแมน

เรื่องย่อ:”Iron Man 3″ เริ่มต้นด้วยโทนี่ สตาร์กที่ต้องรับมือกับปัญหาทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากยุทธการที่นิวยอร์ก ดูหนังไอรอนแมน  ซึ่งเขาได้ต่อสู้เคียงข้างกับเหล่าอเวนเจอร์ส โทนี่มีอาการวิตกกังวลและนอนไม่หลับ จนเขาหมกมุ่นอยู่กับการสร้างชุดเกราะเพิ่มเติม โดยพยายามแยกตัวเองออกจากคนที่เขารัก โดยเฉพาะเปปเปอร์ พ็อตส์โลกกำลังถูกคุกคามโดยผู้ก่อการร้ายที่รู้จักกันในชื่อแมนดาริน ซึ่งกำลังวางแผนการทิ้งระเบิดทั่วโลก หลังจากการโจมตีครั้งหนึ่งทำให้แฮปปี้ โฮแกน เพื่อนของโทนี่ได้รับบาดเจ็บ โทนี่จึงท้าทายแมนดารินต่อสาธารณะ ส่งผลให้เขาต้องโจมตีบ้านของเขาในมาลิบูโดยตรง โทนี่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดและพบว่าตัวเองติดอยู่ในชนบทของรัฐเทนเนสซีพร้อมชุดที่ชำรุด

ขณะที่โทนี่สืบสวนกิจกรรมของแมนดาริน เขาก็ค้นพบแผนการที่ลึกซึ้งกว่าซึ่งเกี่ยวข้องกับอัลดริช คิลเลียน (รับบทโดยกาย เพียร์ซ) นักวิทยาศาสตร์ที่โทนี่เคยเมิน และไวรัสเอ็กซ์เทรมิส ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความสามารถของมนุษย์ได้ แต่ก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้เช่นกัน เนื้อเรื่องของภาพยนตร์พลิกผันเมื่อเปิดเผยว่าแมนดารินไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายตัวจริง แต่เป็นนักแสดงชื่อเทรเวอร์ สแลตเทอรี ที่ได้รับการว่าจ้างจากคิลเลียนเพื่อปกปิดอาชญากรรมของตัวเอง

ภาพยนตร์จบลงด้วยการต่อสู้ที่โทนี่และทหารที่ได้รับการปรับปรุงเอ็กซ์เทรมิสของเขาได้รับความช่วยเหลือจากโรดี้ (รับบทโดยดอน ชีเดิล) โทนี่ใช้ชุดเกราะไอรอนแมนที่ควบคุมจากระยะไกลโดย J.A.R.V.I.S. เพื่อช่วยในการต่อสู้ ในท้ายที่สุด โทนี่ทำลายชุดเกราะของเขาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาที่จะก้าวต่อไปจากความเจ็บปวดและเริ่มต้นใหม่ และเขาเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาสะเก็ดระเบิดที่อยู่ใกล้หัวใจออก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงการสิ้นสุดของการพึ่งพาชุดเกราะของเขา